มนุษยสัมพันธ์เป็นเรื่องราวที่ว่าด้วยพฤติกรรมของบุคคลที่มาเกี่ยวข้องกันในการทำงานในองค์กรหรือหน่วยงาน
เพื่อให้การทำงานดำเนินไปได้อย่างราบรื่นความสำคัญ ของมนุษยสัมพันธ์ในการทำงานก็คือ
สร้างความราบรื่นในการทำงานร่วมกันสร้างความเข้าใจอันดีและความสามัคคี ก่อให้เกิดความรักใคร่และความสำเร็จในการทำงานร่วมกันเป็นปัจจัยที่ช่วยเพิ่มผลผลิตและเป็นเครื่องมือช่วยในการแก้ปัญหาและขจัดความขัดแย้ง
|
หลักของมนุษยสัมพันธ์ คือ
การตอบสนองความต้องการของมนุษย์ โดยใช้หลักปฏิบัติที่ว่าเมื่อเราต้องการสิ่งใด ผู้อื่นก็มีความต้องการสิ่งนั้นเช่นกันส่วนในด้านจิตใจ
ก็ให้ยึดหลักที่ว่าเอาใจเขามาใส่ใจเรา โดยมนุษยสัมพันธ์นั้นเกี่ยวข้องศาสตร์สาขาต่างๆ เช่น วิทยาศาสตร์การแพทย์ จิตวิทยาจิตวิเคราะห์ และความแตกต่างระหว่างบุคคล (ทิพ นิลนพคุณ.2555) |
การสร้างมนุษยสัมพันธ์ในการทำงาน
มีข้อที่ควรปฏิบัติคือ
- การสร้างมนุษยสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน การสร้างมนุษยสัมพันธ์ที่ดี
กับบุคคลในองค์กร
มีองค์ประกอบที่สำคัญคือ การสร้างความเชื่อมั่นให้กับ
เพื่อนร่วมงาน
การเอาใจใส่เพื่อนร่วมงาน การปรับตัวเองให้เข้าได้กับเพื่อนร่วมงาน
- การควบคุมพฤติกรรมและเจตนารมณ์ผู้อื่น เมื่อต้องการสร้างสัมพันธภาพที่ดี
กับเพื่อนร่วมงานมีสิ่งที่ควรต้องปฏิบัติคือ การสร้างความประทับใจ
ให้กับเพื่อนร่วมงาน
การสร้างความเป็นมิตร มองหาส่วนดีและยอมรับความสามารถ
ของเพื่อน
- วิธีการสร้างเสน่ห์ในบุคลิกภาพ การเป็นคนมีเสน่ห์จะช่วยให้บุคคลที่อยู่
รอบข้างอยากเข้ามาชิดใกล้
และปรารถนาจะร่วมงานด้วย การสร้างเสน่ห์สามารถ
ทำได้โดย การใช้น้ำเสียงหรือคำพูด การแสดงออกทางร่างกาย การใช้ภาษากาย
ที่เหมาะสม การพัฒนาบุคลิกภาพให้สง่างาม
การแต่งกายให้เหมาะสมกับกาลเทศะ
-
การสร้างความสัมพันธ์กับผู้ใต้บังคับบัญชา การปฏิบัติงานในองค์กรผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชาจำเป็นต้องการการสื่อสารเพื่อร่วมกันดำเนินงานให้บรรลุภารกิจขององค์กร
-
หลักปฏิบัติในการเป็นผู้ช่วยที่ดี การปฏิบัติตัวเป็นผู้ช่วยที่ดีนั้น
จะใช้หลัก 3 ประสานก็คือ มือดี ใจดี ความคิดดีซึ่งมือดีก็คือมีความรู้ความสามารถ
ประสบการณ์ บุคลิกภาพและลักษณะท่าทางดีใจดีก็คือมีความมั่นคงทางจิตใจ
มีความรับผิดชอบ
เอาใจใส่ในงาน มีความขยันหมั่นเพียรและอดทนส่วนคิดดีก็คือ
มีความคิดริเริ่ม
มีความเป็นผู้นำ มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี รู้จักกาลเทศะ รู้จักช่องทางในการติดต่อสื่อสารและเป็นผู้รู้จักประมาณตน
(ทิพ นิลนพคุณ.2555)
|
2. ความห่างทางสังคม
แทนที่จะถามความรู้สึกเราอาจถามพฤติกรรม
ที่บุคคลหนึ่งจะเลือกกระทำกับอีกบุคคลหนึ่งเช่นจะร่วมกิจกรรมกับเขาหรือไม่
จะไปเที่ยวกับเขาหรือไม่ จะชวนเขาไปบ้านหรือไม่
พฤติกรรมเหล่านี้แสดงความห่างทางสังคมไม่เท่ากันเราอาจนำพฤติกรรมทางสังคมเหล่านี้
มาจัดเรียงเป็นมาตรความห่างทางสังคม
3. สังคมมิติ เทคนิควัดความชอบพอและการยอมรับระหว่างกันที่ใช้กัน แพร่หลายมากคือ สังคมมิติ ( Sociometry ) วิธีการทดสอบง่ายและตรงไปตรงมา
ผู้ทดสอบได้รับการทดสอบจัดอันดับเพื่อนที่ชอบมากที่สุด
หรือผู้ร่วมงานที่อยาก
ทำงานร่วมกันมากที่สุดหรือผู้ร่วมงานที่ไม่อยากทำงานร่วมกันมากที่สุด2-3 อันดับ
ต่อจากนั้นก็นำข้อมูลการเลือกนี้ไปวิเคราะห์ว่าใครถูกเลือกมากที่สุด ใครถูกเลือก น้อยที่สุดคู่ใดมีการเลือกระหว่างกันและบุคคลต่างๆในกลุ่มเกาะกลุ่มกันอย่างไร
ข้อมูลการเลือกนี้อาจนำมาแสดงในแผนภูมิสังคม
องค์ประกอบของมนุษยสัมพันธ์
มนุษยสัมพันธ์จะเกิดได้ต้องมีองค์ประกอบ 3 ประการ คือ
1. ต้องมีความเข้าใจตนเอง
2. ต้องมีความเข้าใจบุคคลอื่น 3. ต้องยอมรับความแตกต่างของบุคคลอื่น
นอกจากนี้แล้วองค์ประกอบของมนุษยสัมพันธ์มักจะเกี่ยวข้องกับเรื่อง
พฤติกรรม การจูงใจ
สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยผสมผสานกันอย่างเหมาะสม
เกิดเป็นพฤติกรรมที่น่าพึงพอใจ
แก่บุคคลอื่น ๆ
ที่เรียกว่า “มนุษยสัมพันธ์”
(ผศ.ดร.รัตติกรณ์ จงวิศาล.๒๔๔๑)
|
มนุษยสัมพันธ์จึงมีความสามัคคีในการสร้างให้มีความสามัคคีในหมู่คณะ ในที่นี้
อาจสรุปผลดีในการมีมนุษยสัมพันธ์และผลเสียในการไม่มีมนุษยสัมพันธ์ได้ดังนี้
คือ
การมีมนุษยสัมพันธ์ก่อให้เกิดผลดี พอสรุปได้ดังนี้
1.เป็นประโยชน์ในการสื่อความคิด ติดต่อการประชาสัมพันธ์กับประชาชน
เพื่อเรียกร้องความเห็นชอบกับชี้แจงให้รู้ถึงบริการต่าง
ๆ ของหน่วยงานในองค์การ
2. ทำให้มีความพอใจในชีวิตเพิ่มขึ้นการได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความคิด
และวัตถุสิ่งของซึ่งกันและกัน จะนำไปสู่ความพอใจในชีวิต รู้สึกว่าชีวิตไม่แห้งแล้ง
3.ทำให้เกิดความร่วมมือร่วมใจกันในการประกอบธุรกิจต่าง ๆ มนุษยสัมพันธ์
ช่วยส่งเสริมความเข้าใจในระหว่างสมาชิกของกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจการงาน ความเข้าใจ
อันดีมีผลทำให้การประกอบธุรกิจดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ สมาชิกมีส่วนร่วม
ในการแสดงความคิดเห็นทำให้เกิดความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของหมู่คณะจะช่วยลดอุบัติเหตุในการทำงานได้มนุษยสัมพันธ์จึงมีผลช่วยให้เกิดการร่วมแรงร่วมใจในการประกอบธุรกิจการงาน
4.ทำให้มีความสุขเพิ่มขึ้นการมีมนุษยสัมพันธ์และมิตรภาพที่ดี จะทำให้เกิด
ความสดชื่นและส่งผลมายังครอบครัวคือจะไม่มีอารมณ์เครียดมาระบายความหงุดหงิด
กับครอบครัวทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง มีความสุขมีความพอใจที่ได้มีกิจกรรมและปฏิบัติงาน
5.ทำให้เกิดการแบ่งหน้าที่รู้จักบทบาทและภารกิจในการประกอบการผลิต
การจำหน่ายการกระจายบริหารงานออกไปโดยทั่วถึงกันมนุษยสัมพันธ์มีส่วนสำคัญ
ในการแบ่งเบาภาระหน้าที่รับผิดชอบ
บนพื้นฐานของความเข้าใจ ไว้วางใจ
เป็นการแบ่งงานกันทำตามวิธีการบริหารงานแผนใหม่
อันเป็นผลช่วย
ทำให้การประกอบธุรกิจการงานร่วมกันสำเร็จลุล่วงตามที่กำหนดไว้อย่างได้ผล
และมีความสมานฉันท์กันในหมู่คณะ
|
อ้างอิงจาก
ทิพ นิลนพคุณ.(2555).หลักของมนุษยสัมพันธ์(02/10/2555)[on-line].Available
[on-line].Available : https://pirun.ku.ac.th
อาจารย์ สุธาสินีย์.(๒๕๔๐):๓๖-๑๔๙ ; องค์ประกอบของมนุษยสัมพันธ์และหลักการ25กันยายน2540
[on-line].Available : https://ajsuthasinee.files.wordpress.com
ผศ.ดร.รัตติกรณ์
จงวิศาล มนุษยสัมพันธ์ : พฤติกรรมมนุษย์ในองค์การ(๒๕๕๑)[on-line]
[on-line].Available : http://kupress.ku.ac.th/newweb/index.php?option=com
[on-line].Available : http://kupress.ku.ac.th/newweb/index.php?option=com
แม็กซ์เวลล์,
จอห์น ซี (๒๕๔๘) มนุษยสัมพันธ์ 101 : สิ่งที่ผู้นำทุกคนควรรู้
[on-line].Available : http://www.book.rmutt.ac.th/?p=103140
ผู้จัดทำ
นางสาว บุษราภรณ์
ศรีคำ 5711011809049
คณะวิทยาการจัดการ
หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต
สาขาวิชาเลขานุการทางการแพทย์
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
อาจารย์ที่ปรึกษา : ผศ. ปวีณา สปิลเลอร์